5 เหตุผลที่ทำไมทองคำถึงเป็นสินทรัพย์ที่น่าลงทุน
- การป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อ ทองคำมักได้รับความนิยมในช่วงที่เงินเฟ้อสูง เนื่องจากมูลค่าของทองคำมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเมื่อมูลค่าของเงินลดลง นักลงทุนจึงใช้ทองคำเป็นวิธีการรักษามูลค่าของสินทรัพย์ในช่วงที่กำลังซื้อของเงินลดลง
- สินทรัพย์ที่มีมูลค่ายั่งยืน ทองคำมีมูลค่ามาตั้งแต่อดีตและได้รับการยอมรับทั่วโลกในฐานะสินทรัพย์ที่มีค่า ไม่มีความเสี่ยงจากการล้มละลายเหมือนหุ้นหรือพันธบัตร มันยังคงรักษามูลค่าได้แม้ในช่วงที่ตลาดการเงินหรือเศรษฐกิจไม่แน่นอน
- การกระจายความเสี่ยงในพอร์ตการลงทุน ทองคำมักมีความสัมพันธ์ตรงข้ามกับตลาดหุ้นหรือพันธบัตร เมื่อตลาดการเงินมีความผันผวน ราคาทองคำมักจะเพิ่มขึ้น การถือทองคำจึงเป็นการกระจายความเสี่ยง ทำให้พอร์ตการลงทุนมีความสมดุลยิ่งขึ้น
- สินทรัพย์ที่เป็นที่ยอมรับทั่วโลก ทองคำเป็นสินทรัพย์ที่สามารถแลกเปลี่ยนได้ง่ายในตลาดโลก ไม่ว่าจะเป็นในรูปแบบของทองคำแท่ง เหรียญ หรือทองรูปพรรณ ทำให้นักลงทุนสามารถซื้อขายได้ง่ายและมีตลาดรองรับทั่วโลก
- ป้องกันความเสี่ยงจากความไม่แน่นอนทางการเมืองและเศรษฐกิจ ทองคำมักจะมีมูลค่าเพิ่มขึ้นในช่วงที่เกิดความไม่แน่นอนทางการเมืองหรือวิกฤตเศรษฐกิจ เพราะนักลงทุนจะหันมาซื้อสินทรัพย์ที่มีความปลอดภัยมากขึ้น ทองคำจึงทำหน้าที่เป็นสินทรัพย์ที่ป้องกันความเสี่ยงในช่วงเวลาวิกฤต
ปัจจัยอะไรที่ส่งผลต่อราคาทองคำ
- อุปสงค์และอุปทาน ความต้องการซื้อทองคำของตลาด เช่น ความต้องการทองคำจากอุตสาหกรรมอัญมณี การลงทุน หรือการซื้อขายของธนาคารกลาง เมื่ออุปสงค์สูงขึ้น ราคาทองคำก็จะปรับตัวสูงขึ้นตาม
- อัตราแลกเปลี่ยนเงินตรา ราคาทองคำมักจะสัมพันธ์กับค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ เมื่อดอลลาร์แข็งค่า ราคาทองคำในตลาดโลกมักจะลดลง เพราะทองคำราคาถูกลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินอื่นๆ
- อัตราดอกเบี้ย ทองคำไม่ได้ให้ดอกเบี้ยหรือผลตอบแทนตรงๆ ดังนั้นเมื่ออัตราดอกเบี้ยสูงขึ้น นักลงทุนมักจะหันไปลงทุนในสินทรัพย์อื่นที่ให้ผลตอบแทนดีกว่า ทำให้ราคาทองคำปรับลดลง
- เงินเฟ้อ ทองคำถือว่าเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัยในช่วงที่เงินเฟ้อสูง เนื่องจากมูลค่าของทองคำมักจะเพิ่มขึ้นตามภาวะเงินเฟ้อ นักลงทุนจึงมักซื้อทองคำเพื่อป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อ
- ความไม่แน่นอนทางการเมืองและเศรษฐกิจ ทองคำเป็นสินทรัพย์ที่นักลงทุนเลือกถือครองเมื่อเกิดความไม่แน่นอน เช่น วิกฤตเศรษฐกิจ ความขัดแย้งทางการเมือง หรือสงคราม ซึ่งมักทำให้ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นเนื่องจากนักลงทุนมองว่าทองคำมีความเสี่ยงน้อยกว่า
- การซื้อขายของธนาคารกลาง ธนาคารกลางของหลายประเทศถือทองคำเป็นสินทรัพย์สำรอง และการซื้อหรือขายทองคำของธนาคารกลางเหล่านี้สามารถส่งผลต่อราคาทองคำในตลาดโลกได้
- ราคาน้ำมัน ราคาน้ำมันและราคาทองคำมักมีความสัมพันธ์กัน เนื่องจากน้ำมันมีผลต่อเงินเฟ้อ เมื่อราคาน้ำมันเพิ่มขึ้น มักจะส่งผลต่อราคาทองคำที่ปรับตัวตาม
- การเก็งกำไร นักลงทุนและผู้ค้าในตลาดทองคำมักจะทำการซื้อขายเพื่อทำกำไรในระยะสั้น ส่งผลให้ราคาทองคำผันผวนตามปัจจัยที่ส่งผลกระทบอย่างรวดเร็ว
ราคาทองคำแท่ง ราคาทองรูปพรรณ แตกต่างกันอย่างไร
- ทองคำแท่ง เป็นทองคำบริสุทธิ์ที่ไม่มีลวดลายหรือการประดิษฐ์เพิ่มเติม มักจะมีความบริสุทธิ์ 99.99% หรือ 96.5% โดยคิดราคาตามน้ำหนักของทองคำโดยตรง เหมาะสำหรับการลงทุนในรูปแบบทองคำที่ต้องการซื้อ-ขายตามราคาตลาดทองคำ
- ทองรูปพรรณ เป็นทองคำที่ผ่านการขึ้นรูปเป็นเครื่องประดับ เช่น สร้อยคอ, แหวน หรือกำไล โดยมักจะมีความบริสุทธิ์ประมาณ 96.5% นอกจากราคาทองคำแล้ว ยังมีการคิดค่ากำเหน็จ ซึ่งเป็นค่าจัดทำหรือค่าออกแบบเครื่องประดับเพิ่มเข้าไป ราคาของทองรูปพรรณจึงสูงกว่าทองคำแท่งเนื่องจากค่าแรงในการทำ
การลงทุนในทองคำมีความเสี่ยงอย่างไร
- ความผันผวนของราคา ราคาทองคำมีการเปลี่ยนแปลงตามตลาดโลกซึ่งสามารถขึ้นหรือลงได้อย่างรวดเร็ว ราคาทองคำอาจปรับลดลงในระยะสั้นโดยไม่คาดคิด แม้ว่าจะมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นในระยะยาว
- อัตราแลกเปลี่ยนเงินตรา ราคาทองคำในหลายประเทศคำนวณโดยใช้ดอลลาร์สหรัฐ ดังนั้น หากค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าหรืออ่อนค่าจะส่งผลกระทบโดยตรงต่อนักลงทุนที่ถือทองคำในสกุลเงินอื่น ซึ่งอาจเพิ่มความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน
- ไม่มีผลตอบแทนระหว่างการถือครอง ทองคำไม่ได้ให้ผลตอบแทนในรูปแบบดอกเบี้ยหรือเงินปันผลเหมือนการลงทุนในหุ้นหรือพันธบัตร ดังนั้นผู้ที่ลงทุนในทองคำต้องพึ่งพาการเพิ่มขึ้นของมูลค่าทองคำเพียงอย่างเดียวเพื่อทำกำไร
- สภาพคล่อง การขายทองคำอาจต้องผ่านกระบวนการตรวจสอบและประเมินคุณภาพ โดยเฉพาะในกรณีของทองคำรูปพรรณ ซึ่งอาจมีค่ากำเหน็จหรือค่าบริการเพิ่มเติม ทำให้ขายได้ยากกว่าทองคำแท่งในบางสถานการณ์
- ความเสี่ยงจากนโยบายรัฐบาล รัฐบาลในบางประเทศอาจออกนโยบายที่มีผลต่อการนำเข้าหรือส่งออกทองคำ การจัดเก็บภาษีการซื้อขายทองคำ หรือการถือครองทองคำซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อราคาทองคำในประเทศนั้นๆ
- ความเสี่ยงทางการเมืองและเศรษฐกิจ แม้ว่าทองคำมักจะถือว่าเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัยในช่วงวิกฤตเศรษฐกิจหรือความไม่แน่นอนทางการเมือง แต่ในบางสถานการณ์ ราคาทองคำอาจไม่ได้ปรับตัวขึ้นตามที่คาดการณ์ เช่น ในกรณีที่ความไม่แน่นอนเกิดขึ้นเป็นระยะเวลานานหรือมีผลกระทบในวงกว้างเกินไป
- ค่าธรรมเนียมและค่าบำรุงรักษา หากนักลงทุนเลือกที่จะลงทุนในทองคำผ่านกองทุนหรือรูปแบบการถือครองอื่นๆ เช่น ETF หรือทองคำแท่ง อาจมีค่าธรรมเนียมในการจัดเก็บและบำรุงรักษาซึ่งสามารถลดผลตอบแทนสุทธิจากการลงทุน
วิธีการเลือกซื้อทองรูปพรรณให้คุ้มค่า
- ตรวจสอบความบริสุทธิ์ของทอง ทองรูปพรรณในประเทศไทยทั่วไปมีความบริสุทธิ์ที่ 5% (ทองคำ 23.16 กะรัต) ซึ่งเป็นมาตรฐาน แต่ควรตรวจสอบใบรับรองความบริสุทธิ์จากร้านขายทองเสมอเพื่อให้แน่ใจว่าทองคำที่ซื้อมีคุณภาพตรงตามมาตรฐาน
- เลือกซื้อจากร้านค้าที่เชื่อถือได้ การซื้อทองจากร้านที่มีชื่อเสียงและมีใบรับรองการค้าเชื่อถือได้ จะช่วยให้มั่นใจได้ว่าทองคำที่ซื้อเป็นของแท้ และลดความเสี่ยงจากการถูกโกงหรือซื้อทองปลอม
- เปรียบเทียบราคาค่ากำเหน็จ ทองรูปพรรณมักมีการคิดค่ากำเหน็จหรือค่าทำทองซึ่งเป็นค่าประดิษฐ์ลวดลาย ค่ากำเหน็จนี้แตกต่างกันไปตามร้านค้าและความซับซ้อนของลวดลาย จึงควรเปรียบเทียบราคาค่ากำเหน็จก่อนตัดสินใจซื้อเพื่อให้ได้ราคาที่เหมาะสม
- น้ำหนักทอง ทองรูปพรรณจะขายตามน้ำหนัก เช่น 1 บาท, 2 บาท หรือ 5 บาท เป็นต้น ควรตรวจสอบน้ำหนักของทองอย่างละเอียด และยืนยันให้ตรงกับข้อมูลที่ร้านระบุไว้
- ลวดลายและงานฝีมือ การเลือกทองรูปพรรณควรคำนึงถึงลวดลายที่ชื่นชอบและเหมาะกับตัวเอง บางครั้งทองคำที่มีลวดลายละเอียดอ่อนและซับซ้อนมักมีราคาสูงเพราะค่ากำเหน็จเพิ่มขึ้น แต่ถ้าเน้นการลงทุนในอนาคต ควรเลือกทองที่มีลวดลายเรียบง่ายเพื่อลดค่ากำเหน็จ
- ใบรับประกัน ควรขอใบรับประกันจากร้านเพื่อรับรองคุณภาพทองคำและการซื้อขาย หากต้องการขายต่อในอนาคต จะสามารถใช้ใบรับประกันเป็นหลักฐานยืนยันคุณภาพทองได้
- พิจารณาการซื้อในช่วงเวลาที่ราคาทองต่ำ ราคาทองคำมีการปรับตัวขึ้นลงตามตลาดโลก การเลือกซื้อทองในช่วงที่ราคาตลาดลดลงจะช่วยให้ได้ทองในราคาที่คุ้มค่ากว่า
- ตรวจสอบนโยบายการขายคืนของร้าน หากคุณต้องการซื้อทองเพื่อการลงทุน ควรสอบถามร้านเกี่ยวกับนโยบายการขายคืน เช่น ร้านรับซื้อคืนที่ราคาน้ำหนักเต็มหรือไม่ หรือมีการหักค่าเสื่อมราคาและค่ากำเหน็จเท่าไร
สำหรับคำแนะนำจากทาง เซ้าเทิร์นอีเว้นท์ หวังว่าทุกท่านที่ได้อ่านคงจะได้แนวทางการเลือก ทอง เพื่อการลงทุนหรือเพื่อเก็บส่งต่อให้ลูกหลาน หากสนใจสินค้าหรือบริการอื่น ๆ เช่น การเช่าโต๊ะ เต็นท์ แบคดรอป เวที การจัดอีเว้นท์
สามารถติดต่อเราได้ที่
เบอร์โทรศัพท์ : 082-6324488
Line ID : @southern-event
Website : https://www.southern-events.net
เรา คือ ผู้ให้บริการจัดงานอีเว้นท์อันดับต้นๆของภาคใต้ ที่เปิดให้บริการมาแล้ว 20 ปี ไม่ว่างานจะเล็ก หรืองานจะใหญ่ เราพร้อมให้บริการได้เสมอมาจนถึงปัจจุบัน
บริการของเรา
ข้อมูลเพิ่มเติม
ช่องทางสื่อต่าง ๆ
A title
Image Box text
A title
Image Box text
ลิขสิทธิ์ © 2024 เซ้าท์เทิร์น อีเว้นท์ เมเนจเม้นท์ สงวนไว้ซึ่งลิขสิทธิ์ทั้งหมด
ลิขสิทธิ์ © 2023 เซ้าท์เทิร์น อีเว้นท์ เมเนจเม้นท์ สงวนไว้ซึ่งลิขสิทธิ์ทั้งหมด